รีวิว Dreamcatcher ล่าฝันมัจจุราช อสูรกายกินโลก 

หนังสยองขวัญ แฟนตาซี เมื่อความฝันที่ถูกแปรสภาพให้กลายเป็นความจริงอันน่าสะพรึงกลัว Dreamcatcher ล่าฝันมัจจุราช อสูรกายกินโลก อ้างอิงมาจากนิยายวิทยาศาสตร์ อเมริกันปี 2003 ที่สร้างจากปี 2001 ในชื่อเดียวกันของ สตีเฟน คิง โดยหนังเรื่องนี้กำกับโดย ลอว์เรนซ์ คาสแดน และเขียนบทโดย วิลเลียม โกลด์แมน และลอว์เรนซ์ คาสแดน ดูหนัง เรื่องนี้ที่ใช้เทคนิค CGI ที่ทันสมัยสร้างโลกแห่งความฝันที่ทั้งสวยงามและน่ากลัว ภาพและเสียงประกอบเข้ากันอย่างลงตัว

นักแสดง/นำแสดงโดย

• โทมัส เจน รับบทเป็น ดร. เฮนรี่ เดฟลิน
• เดเมียน ลูอิส รับบทเป็น แกรี่ “โจนซี” โจนส์ / มิสเตอร์ เกรย์
• ทิโมธี โอลิแฟนท์ รับบทเป็น พีท มัวร์
• เจสัน ลี รับบทเป็น โจ “บีเวอร์” แคลเรนดอน
• ดอนนี่ วอห์ลเบิร์ก รับบทเป็น ดักลาส “ดูดดิตส์” คาเวลล์
• มอร์แกน ฟรีแมน รับบทเป็น พันเอกอับราฮัม เคอร์ติส
• ทอม ไซซ์มอร์ รับบทเป็น ร้อยโทโอเวน อันเดอร์ฮิลล์

อ่านเรื่องย่อของ Dreamcatcher ล่าฝันมัจจุราช อสูรกายกินโลก 

กลุ่มเพื่อนซี่โจนซี, บีเวอร์, พีท และเฮนรี่ ในสมัยที่พวกเขายังเป็นเด็ก พวกเขามักจะนัดรวมตัวกันที่กระท่อมกลางป่าเพื่อออกล่าสัตว์ทุกปี และพวกเขาบังเอิญไปพบเด็กพิการคนหนึ่งที่กำลังถูกแกล้งอยู่ ชื่อว่า ดัดดิตส์ เด็กคนนี้มีพลังพิเศษบางอย่าง การที่พวกเขาเข้าไปช่วยเหลือดัดดิตส์ ทำให้พวกเขาทั้งสี่ได้รับพลังพิเศษบางอย่างมา ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกัน พวกเขาจึงกลายมาเป็นเพื่อนกันจนถึงปัจจุบัน 

ขณะที่พวกเขารวมตัวกันอยู่ที่กระท่อมกลางป่า จู่ๆ ก็มีคนมาเคาะประตู เป็นชายคนหนึ่งที่หลงทางในป่าชื่อริก แม็กคาร์ธี ที่กำลังป่วยหนัก โจนซีและบีเวอร์จึงปล่อยให้เขาพักผ่อนและฟื้นตัวในกระท่อมกลางป่าของพวกเขา ทันใดนั้น สัตว์ป่าทั้งหมด ทั้งนักล่าและเหยื่อก็วิ่งผ่านกระท่อมของพวกเขาไปในทิศทางเดียวกัน ตามมาด้วยเฮลิคอปเตอร์ทหารสองลำที่ประกาศว่าพื้นที่ดังกล่าวถูกกักกันไว้ โจนซีและบีเวอร์กลับไปที่กระท่อมพบริกนั่งเสียชีวิตอยู่โดยมีเลือดเปื้อนเต็มตัว สิ่งมีชีวิตคล้ายหนอนยาวดิ้นและกรีดร้องในห้องน้ำ บีเวอร์นั่งอยู่บนฝาชักโครกเพื่อดักจับสิ่งมีชีวิตดังกล่าว แต่มันกลับสังหารเขา โจนซีพยายามหลบหนี แต่ต้องเผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาวร่างใหญ่ที่ชื่อมิสเตอร์เกรย์ แล้วมันก็เข้าสิงโจนซี

ดูหนัง รีวิวหนัง Dreamcatcher ล่าฝันมัจจุราช อสูรกายกินโลก 

เป็นหนังที่เต็มไปด้วยไอเดียสุดล้ำเกี่ยวกับความฝันและอสูรกายที่สามารถแปรเปลี่ยนจินตนาการของมนุษย์ให้กลายเป็นอาวุธ แต่หลังจาก ดูหนัง จบ รู้สึกว่าตัวหนังมีทั้งจุดที่น่าสนใจและจุดที่อาจทำให้ผู้ชมบางกลุ่มรู้สึกขัดใจ ไอเดียสดใหม่และแปลกใหม่แนวคิดเรื่อง “อสูรกายที่เกิดจากความฝัน” ถือเป็นแนวคิดที่น่าสนใจและแตกต่างจากหนังสยองขวัญทั่วไป มันให้ความรู้สึกเหมือนผสมระหว่าง “Inception” กับ “Nightmare on Elm Street” และสามารถเล่นกับความกลัวที่เกิดจากจิตใต้สำนึกได้ดี ฉากสยองขวัญและบรรยากาศชวนหลอน Dreamcatcher ล่าฝันมัจจุราช อสูรกายกินโลก การออกแบบฉากและสภาพแวดล้อมในหนังสร้างความตึงเครียดได้อย่างดี เอฟเฟกต์ CGI และเทคนิคภาพทำให้ฉากฝันและฉากโลกแห่งความจริงมีความแตกต่างกันชัดเจน บรรยากาศดูน่าขนลุกและสร้างความหวาดระแวงได้ การใช้สัญลักษณ์และประเด็นที่น่าคิด หนังมีการแฝงสัญลักษณ์เกี่ยวกับความกลัวและจิตใต้สำนึกของมนุษย์ เช่น ความฝันที่สะท้อนปมในใจของตัวละคร หรือการที่บางคนไม่สามารถแยกแยะระหว่างความจริงกับจินตนาการ ซึ่งช่วยให้ผู้ชมได้คิดตาม แต่ต้องยอมรับว่าตัวละครบางตัวขาดมิติ แม้ว่าจะมีตัวละครหลายตัวที่ดูน่าสนใจ แต่หนังกลับไม่ได้ลงลึกไปในพัฒนาการของพวกเขา ทำให้บางตัวละครดูเหมือนมีบทบาทแค่เพื่อเดินเรื่องเท่านั้น และบางตัวอาจถูกลืมไปกลางทาง